วันศุกร์ที่ 10 สิงหาคม พ.ศ. 2555

เรื่องกล้วยๆ แต่ไม่กล้วยอย่างที่คิด, ผลไม้แสนวิเศษ สรรพคุณร้อยแปด

         กล้วย มีน้ำตาลธรรมชาติถึง 3 ชนิดเป็นส่วนประกอบ ได้แก่ ซูโครส(Sucrose), ฟรุคโตส(Fructose) และ กลูโคส (Glucose) รวมไปถึงพวกไฟเบอร์หรือเส้นใยต่างๆ ซึ่งทำให้กล้วยกลายเป็นแหล่งพลังงานขนาดใหญ่ที่ร่างกายสามารถนำมาใช้ได้ทันที จากการวิจัยพบว่า กล้วยเพียงแค่ 2 ลูกก็ให้พลังงานเพียงพอสำหรับการทำงานอย่างหนักเป็นเวลา 90 นาทีได้ ไม่น่าแปลกใจเลยที่กล้วยเป็นผลไม้คู่กายอันดับหนึ่งของพวกนักกีฬาชั้นนำระดับโลก นอกจากกล้วยจะให้พลังงานมากมายแล้ว กล้วยยังช่วยป้องกันโรคภัยไข้เจ็บต่างๆ และเพิ่มความแข็งแรง สมบูรณ์ให้กับร่างกายของเราได้อีกด้วย อาทิเช่น

โรคซึมเศร้า
จากการสำรวจโดย MIND ในกลุ่มของผู้ที่มีอาการซึมเศร้า หลายๆคนรู้สึกดีขึ้นเมื่อทานกล้วยเข้าไป นี่เป็นเพราะว่ากล้วยมีส่วนประกอบของ Tryptophan ซึ่งเป็นโปรตีนชนิดหนึ่งที่ร่างกายของเราจะเปลี่ยนให้เป็น Serotonin ที่รู้จักกันดีว่าจะทำให้เรารู้สึกผ่อนคลาย ทำให้อารมณ์ดีขึ้นและมีความสุขมากขึ้น

PMS (Premenstrual Sysdrome - อาการแปลกๆที่ผู้หญิงเป็นก่อนมีประจำเดือน)
ลืมการกินยาไปได้เลย - กินกล้วยกันดีกว่า กล้วยมีส่วนประกอบของวิตามิน B6 ที่ช่วยรักษาระดับน้ำตาลในเลือดของคุณให้คงที่ ซึ่งมีผลไปถึงอารมณ์ของคุณด้วย

โรคโลหิตจาง
กล้วยมีธาตุเหล็กอยู่มาก ทำให้มันสามารถกระตุ้นการสร้างเม็ดเลือดแดงและช่วยรักษาอาการโลหิตจางได้

โรคเกี่ยวกับความดันโลหิต
กล้วยมีโปแตสเซียม (Potassium) สูงมากในขณะที่มีเกลือต่ำ ทำให้มันเป็นผลไม้ที่เหมาะสมที่สุดในการจัดการกับความดันเลือด มันให้ผลดีขนาดที่ว่า องค์การอาหารและยาของสหรัฐอเมริกายอมให้โรงงานผลิตกล้วยกล่าวอ้างได้ว่ากล้วยช่วยลดค
วามเสี่ยงในการเป็นโรคเกี่ยวกับความดันโลหิตได้

ยุงกัด
ก่อนที่จะไปหยิบเอายาทายุงกัดมาใช้ ลองเอาผิวด้านในของเปลือกกล้วยมาถูๆบริเวณที่ยุงกัดดู หลายคนพบว่ามันช่วยลดอาการบวมและคันได้อย่างไม่น่าเชื่อ (wow!!)

พลังสมอง
นักเรียนกว่า 200 คนของโรงเรียน Twickenham กินกล้วยพร้อมอาหารเช้า ช่วงพัก และอาหารกลางวันเพื่อช่วยเพิ่มพลังสมองในการสอบของปีที่ผ่านมา จากการวิจัยพบว่ากล้วยซึ่งอุดมไปด้วยโปแตสเซียมนี้ช่วยให้นักเรียนรู้สึกตื่นตัวมากขึ้นทำให้เรียนได้ดีขึ้นในที่สุด (wow!!)

โรคท้องผูก
กล้วยมีไฟเบอร์สูงช่วยให้ลำไส้ใหญ่ของเรากลับมาทำงานได้เป็นปกติโดยไม่ต้องพึ่งพาพวก
ยาถ่ายต่างๆอีกต่อไป

อาการแฮงค์ (เมาค้าง)
หนึ่งในวิธีรักษาอาการแฮงค์ให้เร็วที่สุดก็คือการกิน Banana milkshake ผสมน้ำผึ้ง กล้วยช่วยให้กระเพาะอาหารของเรากลับมาอยู่ในสภาพปกติ น้ำผึ้งช่วยเพิ่มระดับน้ำตาลในเลือด และนมจะช่วยเพิ่มน้ำให้กับร่างกายของคุณได้ด้วย

อาการเจ็บเสียดหน้าอก
กล้วยช่วยให้เกิดปฏิกริยาในร่างกายที่จะไปหักล้างพวกกรดในกระเพาะอาหารที่มีเยอะเกิน
ไปได้ (กรดพวกนี้แหละที่ทำให้เรารู้สึกเจ็บเสียดที่หน้าอก) การกินกล้วยจะช่วยบรรเทาอาการเจ็บปวดนี้ได้
Morning Sickness (อาการคลื่นไส้และอาเจียนเวลาตื่นนอนตอนเช้า จะเป็นมากในผู้หญิงที่ตั้งครรภ์ระยะแรก)การกินกล้วยเป็นของว่างระหว่างมื้อจะช่วยเพิ่มระดับน้ำตาลในเลือดของคุณ ซึ่งสามารถช่วยลดอาการ morning sickness ได้

ระบบประสาท
กล้วยมีวิตามิน B สูงซึ่งมีช่วยในการทำงานของระบบประสาทของเรา

น้ำหนักเกินเพราะการทำงาน
จากการศึกษาของสถาบันด้านจิตวิทยาในออสเตรียพบว่าความกดดันที่เกิดจากการทำงานนำไปสู่พฤติกรรมการกินที่ไม่ดี เช่น ช็อคโกแลตและมันฝรั่งทอด เมื่อพิจารณาผู้ป่วยกว่า 5000 คน นักวิจัยพบว่าคนที่เป็นโรคอ้วนส่วนใหญ่ทำงานที่มีความกดดันสูง รายงานนั้นสรุปว่าถ้าต้องการหลีกเลี่ยงการกินอย่างไม่ยั้งคิด เราต้องควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดโดยเลือกทานของว่างที่มีคาร์โบไฮเดรตเยอะๆ ทุกสองชั่วโมง ... จะอะไรซะอีก...ก็ "กล้วย" ไง

โรคแผลในกระเพาะอาหาร
กล้วยเป็นอาหารที่ใช้ต่อสู้กับอาการผิดปกติต่างๆในระบบทางเดินอาหารได้เนื่องจากกล้ว
ยมีผิวสัมผัสที่นุ่มและลื่น กล้วยเป็นผลไม้ชนิดเดียวที่สามารถทานได้โดยไม่ก่อให้เกิดผลกระทบต่อผู้ที่เป็นแผลเรื้อรัง กล้วยยังช่วยปรับภาวะกรดเกินในกระเพาะอาหารให้กลับสู่ปกติได้ รวมทั้งช่วยลดอาการระคายเคืองเพราะกล้วยจะช่วยเคลือบผิวของกระเพาะอาหารได้

ช่วยควบคุมอุณหภูมิในร่างกาย
หลายๆท้องถิ่นเห็นว่ากล้วยเป็นผลไม้ที่ช่วยทำให้ทั้งอุณหภูมิร่างกายและอารมณ์ของคนที่กำลังจะเป็นแม่เย็นลงได้ ในประเทศไทย ผู้หญิงที่ตั้งครรภ์มักจะทานกล้วยเพื่อให้แน่ใจว่าลูกของพวกเธอจะเกิดมาด้วยอุณหภูมิที่เย็น

Seasonal Affective Disorder (SAD)
กล้วยช่วยบรรเทาอาการซึมเศร้าได้เพราะมันมีสารประกอบ Tryptophan ที่ช่วยในการควบคุมอารมณ์

การสูบบุหรี่
กล้วยยังสามารถช่วยคนที่ต้องการเลิกบุหรี่ได้ด้วย กล้วยมีวิตามิน B6 และ B12 รวมไปถึงโปแตสเซียมและแมกนีเซียมที่ช่วยในการฟื้นฟูร่างกายจากผลของการเลิก นิโคตินได้

ความเครียด
โปแตสเซียมคือวิตามินแห่งชีวิต มันช่วยให้หัวใจเต้นเป็นปกติ ช่วยในการส่งออกซิเจนไปยังสมอง และยังช่วยรักษาสมดุลของน้ำในร่างกายด้วย เมื่อเราเครียด อัตราการเผาผลาญพลังงานของเราจะเพิ่มขึ้นซึ่งทำให้ระดับโปแตสเซียมในร่างกายลดลง ปัญหานี้แก้ได้โดยการทานกล้วยซึ่งมีโปแตสเซียมอยู่เยอะ

โรคเส้นเลือดที่ไปเลี้ยงสมองอุดตัน (Stroke)
จากการวิจัยของ The New England Journal of Medicine พบว่าการกินกล้วยเป็นประจำช่วยลดความเสี่ยงของการตายเพราะเส้นเลือดอุดตันได้ถึง 40 %



เด็กกับเรื่องกล้วยๆ


ดร.แพง ชินพงศ์ 

 
      วันนี้ผู้เขียนขอนำเสนอเรื่อง “เด็กกับเรื่องกล้วย ๆ” ซึ่งไม่ได้มีเนื้อหาที่ต้องการเปรียบเทียบกล้วยกับสิ่งที่ซับซ้อนแต่ประการใด แต่อยากจะเขียนถึงเรื่องราวของ “กล้วย” ซึ่งเป็นผลไม้ชนิดหนึ่งที่คนไทยรู้จักและคุ้นเคยกันมานานแสนนาน เพราะเมืองไทยเป็นแหล่งปลูกกล้วยหลายพันธุ์ เช่น กล้วยน้ำว้า กล้วยหอม กล้วยไข่ กล้วยหักมุก กล้วยเล็บมือนาง กล้วยเป็นผลไม้ที่ปลูกง่าย หาง่าย กินง่าย (จนเป็นที่มาของคำว่า “ง่ายเหมือนปอกกล้วยเข้าปาก”) สามารถนำมาประกอบเป็นอาหารคาวหวานได้ มีรสชาติหวานหอมอร่อย อีกทั้งมีประโยชน์และสรรพคุณมากหลาย ยิ่งเฉพาะในเรื่องโภชนาการแล้วต้องถือว่ากล้วยเป็นผลไม้ที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูงมากทีเดียว จึงมีประโยชน์แก่ผู้บริโภค โดยเฉพาะเด็กๆแล้วมักไม่พลาดที่จะต้องกินข้าวบดกับกล้วยจากฝีมือคุณแม่แน่นอน
     
       เรามาดูกันซิว่ากล้วยมีประโยชน์ต่อเด็ก ๆ อย่างไรบ้าง

       - กล้วยช่วยในการเจริญเติบโตทางร่างกายของทารก
     
       กล้วยเป็นผลไม้ที่เหมาะเป็นอาหารเสริมสำหรับเด็กทารกโดยตรง เพราะเนื้อมีลักษณะนิ่ม ง่ายต่อการกินของทารกที่ยังไม่มีฟันหรือที่ฟันเพิ่งเริ่มขึ้น นอกจากนี้ กล้วยยังมีคุณค่าของธาตุอาหารที่จำเป็นต่อการเจริญเติบโตของทารกด้วย เช่น มีกรดอะมิโนและเกลือแร่ที่จำเป็นสำหรับเด็กทารกหลายชนิด อีกทั้งมีส่วนประกอบของโปรตีนที่ใกล้เคียงกับน้ำนมแม่ เราจึงเห็นภูมิปัญญาของคนไทยตั้งแต่สมัยโบราณจนถึงปัจจุบันที่ใช้กล้วยน้ำว้ามาบดกับข้าวให้เด็กทารกกินเป็นอาหารเสริม เพราะทำให้เด็กทารกมีสุขภาพแข็งแรง
     
       - กล้วยเพิ่มประสิทธิภาพสมองของเด็ก     
       กล้วยเป็นผลไม้ที่มีโปแตสเซียมสูงมากที่สุดในบรรดาผลไม้ทั้งหมด เพราะในผลกล้วยสุกหนัก 100 กรัมมีสารโปแตสเซียมประมาณ 370 มิลลิกรัม ซึ่งสารโปแตสเซียมในกล้วยมีสรรพคุณในการช่วยเพิ่มพลังให้สมองตื่นตัว สมัยที่ผู้เขียนยังเป็นเด็กเรียนที่โรงเรียนวัฒนาวิทยาลัย ทางโรงเรียนจัดอาหารว่างตอนเช้าคือนมกับกล้วยน้ำว้าให้เด็ก ๆ ได้รับประทานทุกวัน เพราะเป็นการช่วยเตรียมสมองให้พร้อมสำหรับการเรียนนั่นเอง นอกจากนี้ยังมีงานวิจัยเรื่อง The Many Benefits of Bananas (ประโยชน์มากมายของกล้วย) ของโรงเรียน Twickenham ในแคว้น Middlesex ที่ประเทศอังกฤษ พบว่านักเรียน200คน ที่รับประทานกล้วยหอมในมื้อเช้าและมื้อกลางวันเป็นประจำทุกวัน มีผลการเรียนอยู่ในระดับดี (2005) ดังนั้น กล้วยจึงเหมาะกับวัยเด็กซึ่งเป็นวัยเรียนรู้ที่ต้องใช้สมองและใช้ความคิดในการเรียนรู้
     
       - กล้วยช่วยเพิ่มพลังงานแก่เด็ก
     
       ในกล้วยสุก มีน้ำตาล 3 ชนิด คือ กลูโคส ซูโคส และฟรุคโตส และมีคาร์โบไฮเดรตสูงถึง 22.2 กรัม (คำนวณจากกล้วยที่มีน้ำหนัก100กรัม) ดังนั้น กล้วยจึงให้พลังงานอย่างดี เหมาะสำหรับเด็กๆในวัยที่ร่างกายกำลังเจริญเติบโตและชอบเคลื่อนไหวร่างกายในการวิ่ง กระโดด เล่น ทำกิจกรรมต่าง ๆ การให้เด็ก ๆ รับประทานกล้วยทุกวันจึงสามารถช่วยกระตุ้นให้สมองและร่างกายของเด็กให้ทำงานได้อย่างคล่องแคล่ว ว่องไวและกระฉับกระเฉง 
     
       - กล้วยช่วยทำให้เด็กอารมณ์ดี     
       กล้วยหอมมีวิตามินบีอยู่มาก ซึ่งมีสรรพคุณที่สามารถช่วยลดความเครียดได้ นอกจากนี้ กล้วยยังมีโปรตีนชนิด try potophan ซึ่งช่วยทำให้เด็กรู้สึกอารมณ์ดี มีความสุข และสารโปแตสเซียมทำให้หัวใจทำงานได้ดี จึงส่งผลให้ออกซิเจนออกไปเลี้ยงสมองอย่างเพียงพอ ร่างกายจึงเกิดการผ่อนคลายมากขึ้น ทำให้ความเครียดลดลง
     
       - กล้วยช่วยเรื่องระบบขับถ่ายของเด็ก     
       - ช่วยแก้อาการท้องผูก การให้เด็กรับประทานกล้วยน้ำว้าสุกเป็นประจำทุกวัน จะช่วยให้เด็กไม่มีอาการท้องผูก เพราะกล้วยมีเส้นใยอาหารอยู่มาก จึงช่วยให้ขับถ่ายได้สะดวก
     
       - ช่วยแก้อาการท้องร่วง นำกล้วยดิบมาฝานเป็นแว่นบาง ๆ ทั้งเปลือก ตากแห้งแล้วนำมาบดให้ละเอียดเป็นผงใช้ชงดื่ม ช่วยรักษาอาการท้องเสียหรือท้องเดิน อีกทั้งสามารถลดอาการท้องเฟ้อท้องอืดได้อีกด้วย
     
       นอกจากประโยชน์ต่าง ๆ ที่กล่าวมาแล้วนี้ ในกล้วยยังมีวิตามินบี1ที่มีสรรพคุณในการป้องกันโรคเหน็บชา มีวิตามินซี ใช้ป้องกันโรคหวัด มีแมกนีเซียม ช่วยควบคุมความดันเลือดและมีแคลเซียม ที่ช่วยเสริมสร้างกระดูกและฟันให้แข็งแรง และปัจจุบันยังมีการสนับสนุนให้กินกล้วยมื้อเช้าทุกวันเพื่อล้างพิษและลดไขมันในร่างกายอีกด้วย (Hamachi,Asa Banana Diet,2008)
     
       จะเห็นได้ว่า แม้จะเป็นเรื่องกล้วยๆแต่ประโยชน์ที่ได้รับจากกล้วยมีมากมายมหาศาล เพราะมีคุณค่าทางโภชนาการสูงเมื่อเทียบกับผลไม้ชนิดอื่นที่มีราคาแพงกว่า เช่น มีเกลือแร่และวิตามินต่าง ๆ มากกว่าแอ๊ปเปิ้ล มีคาร์โบไฮเดรต และธาตุเหล็กมากกว่าเชอรี่ มีโปรตีน และฟอสฟอรัสมากกว่าสตรอเบอรี่ มีโปแตสเซียม และวิตามินบีมากกว่าแอปปริคอต ฯลฯ อีกทั้งกล้วยยังหากินได้ง่าย มีทุกฤดูกาลและราคาถูกอีกด้วย คุณพ่อคุณแม่จึงควรให้ลูก ๆ ได้กินกล้วยกันทุกวันเพื่อสุขภาพร่างกาย สมองและอารมณ์ที่ดีของเด็ก ๆ นั่นเอง